ลีกชั้นนำในยุโรปทุกลีกตอนนี้เปิดซีซั่นกันไปครบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งลีกที่รูดม่านก่อนใครเพื่อนอย่าง บุนเดสลีกา ตอนนี้ดำเนินผ่านนัดที่ 5 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บรรดาทีมหัวตารางยังขับเคี่ยวกันอย่างมันเท้า และคงจะไม่พูดถึงไม่ได้ ก็ฟอร์ม “เสือเหลือง” มันแร๊งส์ ซะขนาดนี้...
การขับเคี่ยวกันของลีกเมืองเบียร์ในยุคนื้ ย่อมไม่พ้นการฟาดฟันของเสือสองตัว ทั้ง “เสือใต้” และ “เสือเหลือง” แม้ซีซั่นที่แล้ว จุ๊ปป์ ไฮย์เกส จะใช้ลูกเก๋าเอาคืน เจอร์เก้น คล็อปป์ แบบทบต้นทบดอก หลังโดยแย่งถาดแชมป์ไปครองอยู่ 2 ฤดูกาล ด้วยการจัดการขึ้นนำแบบม้วนเดียวโกยแต้มแซงถล่มทลายชนิดฝุ่นยังตามไม่ทัน ทิ้งห่าง ดอร์ทมุนด์ ที่สะดุดแล้วสะดุดอีกแบบไม่ปรานี 25 แต้ม
แต่มาฤดูกาลนี้เหมือนหนังคนละม้วน เมื่อ “เสือใต้” มีการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือ ที่เซ็นสัญญาล่วงหน้ากันไว้ตั้งแต่กลางซีซั่นก่อน โดยเป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เข้ามารับช่วงต่อไปแบบที่ ไฮย์เกส ที่มือกำลังขึ้นก็ไม่ได้เต็มใจสละให้เท่าไหร่นัก และล่าสุดกลายเป็นว่า ทีม “เสือใต้” ก็ไม่อาจเค้นฟอร์มเหมือนตอนที่ “ลุงจุ๊ปป์” ยังร่ายมนต์ขลังอยู่ในถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า ได้เลย ตอนนี้ออกสตาร์ทเกมลีกไปแล้ว 5 นัด ผลงานชนะ 4 เสมอ 1 อาจไม่ได้เลวร้ายก็จริง แต่ก็ไม่มีคำว่าเหนือกว่าชัดเจนแบบที่ทำให้เห็นบ่อยๆ เมื่อฤดูกาลที่แล้วให้เห็นเลย กว่าจะเก็บชัยได้เล่นเอาหืดแทบจะขึ้นคอ
มากันแค่ 3 คนแต่ของจริงทุกคน ผลงานเสือเหลืองเลยกระฉูด!!
ผิดกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่นอกจะมีประสบการณ์ใน บุนเดสลีกา มากกว่าแล้ว ความเจนจัดในวาทกรรมก็ไม่ยิ่งหย่อนเลย แม้ว่าทีมจะต้องเสีย มาริโอ เกิทเซ่ เพลย์เมกเกอร์ดาวรุ่งไปให้ บาเยิร์น มิวนิค แต่ก็กลับไม่ส่งผลกระทบใดๆ ด้วยซ้ำ ทั้งที่หลายฝ่ายคาดว่าจะต้องระส่ำระสายไม่น้อย ตอนซัมเมอร์ ทีมเชฟ “เสือเหลือง” ได้ตัว เฮนริค มคิทาร์ยาน และปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง มาเสริมแนวรุก เล่นเอาแฟนลืมเจ้าหนูผู้เคยพาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์ลีกไปเลย
เมื่อทุกอย่างลงตัว คล็อปป์ ก็พาลูกทีมทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งจ่าฝูงด้วยชัยชนะ 5 นัดรวด เริ่มด้วยชัยถล่มทลายเหนือ เอาก์สบวร์ก 4-0 และล่าสุดยำ ฮัมบูร์ก 6-2 สร้างประวัติศาสตร์การออกสตาร์ทในเกมลีกหน้าใหม่ให้สโมสรในทันที ซึ่งกลไกสำคัญในความสำเร็จเบื้องต้นนี้ คงหนีไม่พ้นการกล่อมเกลาจิตใจของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ให้เปลี่ยนใจไม่หนีไปซบ “เสือใต้” อีกคน และอยู่เป็นกำลังสำคัญให้กับทีม ที่สุดท้ายแล้วไม่แน่ว่าหาก “เสือเหลือง” ยัง “แรงกว่า” แบบนี้ ดาวยิงโปแลนด์อาจไม่อยากไปอยู่กับ เป๊ป ก็ได้
เลวาน ยังรักษาฟอร์มความคมได้เหมือนเคย ได้มหาเทพสายฟ้าความเร็วเหนือเสียงสปีด 5 พัน อย่าง โอบาเมย็องก์ จับเข้าคู่กันลงตัว
นอกจาก เลวานฯ แล้วยังได้ มาร์โก รอยส์ ที่ฟอร์มฮอตเตะตาสุดๆ มาเป็นกำลังสำคัญอีกด้วย รวมทั้ง มคิทาร์ยาน และโอบาเมย็องก์ ที่เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญให้กับทีมอย่างแท้จริง ขณะที่แม้จะไม่มี ลูคัส พิสเซ็ค แบ็กขวาที่เจ็บหนัก แต่ เควิน โกรสครอยส์ กลับลงมายืนเป็นแบ็กจำเป็นได้ดีเกินคาด เรียกว่านอกจากประสบการณ์ของกุนซือที่ พร้อมสรรพแล้ว นักเตะในทีมยังสอดประสานกันได้อย่างลงตัว เล่นเอาทุกสิ่งอย่างที่ต้องมาเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จ “เข้าทาง” กุนซือหนุ่มวัย 46 ปีเข้าจังๆ
นอกจากจะบ่งการเกมรุกได้ดีแล้ว มคิทาร์ยาน ยังทำประตูได้ดีอีกด้วย
แต่บททดสอบของ คล็อปป์ ก็ไม่ได้อยู่แค่ในเกมลีกอีกต่อไปแล้ว จากผลงานที่ทำไว้ถึงตำแหน่งรองแชมป์ยุโรป เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำให้หลายฝ่ายตั้งให้เป็นทีมเต็งแล้วอย่างเป็นทางการ แต่เส้นทางก็ยังไม่ง่ายเหมือนเดิม เมื่อทีมไม่ได้โดนวางเป็นทีมวางตามที่บ่อนหรืออะไรก็ตามตั้งกัน ทำให้ฤดูกาลนี้ต้องมาอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธอีกครั้ง ซึ่งมีเพื่อนร่วมสังฆกรรมอย่าง อาร์เซน่อล, นาโปลี และโอลิมปิก มาร์กเซย เป็นทีมระดับเสือสิงห์กระทิงและแรดอย่างแท้จริง และไม่น่าจะใช่เรื่อง ง่ายที่ คล็อปป์ จะพาลูกทีมฝ่าดงกีบและอุ้งเท้าไปได้ง่ายๆ
นี่ยังไม่พ้นโค้งแรกของฤดูกาลด้วยซ้ำ คู่แข่งที่ตามหลังมาอย่าง บาเยิร์น มิวนิค อาจไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ก็เรียกว่ายังหายใจรดต้นคอ แม้ยังอยู่ในขั้นเตาะแตะ แต่หากยืนได้เต็มเท้าและออกวิ่งได้เมื่อไหร่ ลูกทีมของ เป๊ป ก็ยังคงเป็นศัตรูที่น่ากลัวไม่น้อยอยู่เหมือนเดิม ตอนนี้ คล็อปป์ อาจออกสตาร์ทได้ดี แต่เมื่อมีอุปสรรคอาทิอาการบาดเจ็บหรือโทษแบนรวมถึงการฟอร์มสะดุดเข้ามากวนใจ ก็ไม่แน่ว่าจะยืนหยัดได้จนหยดสุดท้าย คงต้องมารอดูกันอีกยาวๆ